วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เหตุระเบิดพุทธคยา

          อินเดีย จับกุมผู้ต้องสงสัย วางระเบิดพุทธคยา ได้แล้ว 1 ราย เตรียมขยายผลต่อว่าโยงกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงหรือไม่

  เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดอานุภาพต่ำติดต่อกันหลายครั้ง ในบริเวณวัดพุทธคยา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของสังเวชนียสถาน ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของชาวพุทธทั่วโลก ในอำเภอคยา รัฐพิหาร ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย ส่งผลให้พระสงฆ์บาดเจ็บ 2 รูป เป็นพระชาวทิเบต 1 รูป และพระพม่าอีก 1 รูป ขณะที่วัดมหาโพธิและต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าเป็นที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ไม่ได้รับความเสียหาย


 รายงานระบุว่า ระเบิดขนาดเล็กซึ่งมีผู้นำมาวางเอาไว้หลายจุดภายในเขตสังเวชนียสถานแห่งนี้ ได้เกิดการระเบิดขึ้นมารวม 9 จุด โดยมี 4 ลูกระเบิดขึ้นมาภายในเขตพื้นที่ของพุทธคยา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดประกาศอ้างความรับผิดชอบเป็นผู้ก่อเหตุครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเตือนแล้วว่า พุทธคยา เป็นสถานที่ที่ดึงดูดพุทธศาสนิกชนจำนวนมากให้มาเคารพสักการะ จึงอาจตกเป็นเป้าหมายโจมตีของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง เพื่อแก้แค้นเหตุการณ์รุนแรงที่ชาวพุทธทำร้ายคนมุสลิมในพม่า

          ขณะที่ทางด้าน นายมานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้ออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุระเบิดดังกล่าว โดยระบุว่า การโจมตีศาสนสถานเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถอดทนได้ ขณะที่ นายอาร์.พี.เอ็น. ซิงห์ รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ของอินเดีย กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่านี่เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย อย่างไรก็ดีทางการอินเดียกำลังทำการสอบสวนเพื่อตรวจสอบว่าใครเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้

          ทั้งนี้ สำหรับวัดมหาโพธิ ในพุทธคยาถือเป็นหนึ่งในศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดตามความเชื่อของชาวพุทธ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของต้นโพธิ์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี 2545

          ล่าสุด วันนี้ (8 กรกฎาคม 2556) มีรายงานว่า ทางการอินเดียสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุดังกล่าวได้แล้ว 1 ราย และกำลังสอบสวนต่อไปว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงหรือไม่ เนื่องจากอาจจะเป็นการแก้แค้นให้แก่มุสลิมในประเทศพม่า ที่กำลังมีความขัดแย้งกันอยู่ในขณะนี้

มือมืดวางระเบิดพุทธคยาที่อินเดีย พระสงฆ์บาดเจ็บ 2

มือมืดวางระเบิดพุทธคยาที่อินเดีย พระสงฆ์บาดเจ็บ 2

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ชื่อปริญญาบ้ตรและคณะภาษาฝรั่งเศส

ชื่อปริญญาบ้ตรและคณะ

Licence-es-Lettres (littérature française) ปริญญาตรีอักษรศาสตร์ สาขาวรรณคดีฝรั่งเศส
Licence en Langue et Civilisation françaises ปริญญาตรีภาษาและอารยธรรมฝรั่งเศส
Licence en Littérature et Civilisation françaises ปริญญาตรีวรรณกรรมและอารยธรรมฝรั่งเศส
Licence en Linguistique ปริญญาตรีภาษาศาสตร์
Maitrise en …..ปริญญาโท (ปัจจุบันมี master 1 และ master 2)
Doctorat  en .......ปริญญาเอก
Faculté des Lettres คณะอักษรศาสตร์
Faculté des Arts Libéraux คณะศิลปศาสตร์
Faculté des Sciences Humaines คณะมนุษยศาสตร์
Faculté de l’Archéologie คณะโบราณคดี
Faculté de la Pédagogie คณะศึกษาศาสตร์
Faculté des Sciences Politiques คณะรัฐศาสตร์


วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มาแล้ว!! เนื้อหาออกสอบ GAT/PAT ตุลาคม (เยอะเว่อร์!)



    มาแล้ว!! เนื้อหาออกสอบ GAT/PAT ตุลาคม (เยอะเว่อร์!

    GAT : ความถนัดทั่วไป วัดศักยภาพการเรียนในมาวิทยาลัยให้ประสบความสำเร็จ ข้อสอบแยกเป็น 2 ส่วน คือ
                          ส่วนที่ 1  การอ่านเชิงวิเคราะห์ เขียนเชิงวิเคราะห์ คิดเชิงวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
                         ส่วนที่ 2   การสื่อสารทางภาษาอังกฤษ
                           ((เค้าบอกมาแค่นี้^^))
     
     PAT 1 : ความถนัดทางคณิตศาสตร์
     เนื้อหาที่ออกสอบ 1) ตรรกศาสตร์  2) เซต  
      3) ระบบจำนวนจริง
    4) ความสัมพันธ์และฟังก์ชั่น
     5) ฟังก์ชันตรีโกณมิติ6) เรขาคณิตวิเคราะห์
     7) ฟังก์ชั่นเอ็กซ์โปเนนเชียลและฟังก์ชั่นลอกิริทึม8) เมทริกซ์
      9) เวกเตอร์10) จำนวนเชิงซ้อน
     11) กำหนดการเชิงเส้น12) ลำดับและอนุกรม
     13) แคลคูลัสเบื้องต้น 
     14) การเรียงสับเปลี่ยนและการจัดหมู่15) ความน่าจะเป็น
     16) การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น17) การแจกแจงปกติ 
     18) ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชั่นระหว่างข้อมูล 
             วัดอะไร?? : การคิดและแก้ปัญหาเชิงคณิตศาสตร์
     
    PAT2 : ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
                  สำหรับที่มีข่าวลือว่า PAT2 จะแยกออกมาเป็น 3 วิชานั้น สำหรับการสอบในเดือน ต.ค. นี้ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะคะ ข้อสอบยังรวมกันเป็นฉบับเดียวเหมือนเดิม
       เนื้อหาข้อสอบ :1) เคมี  2) ชีววิทยาและสิ่งแวดล้อม
     3) ฟิสิกส์4) โลก ดาราศาสตร์ อวกาศ
       วัดอะไร?? :1) คิดแบบนักวิทยาศาสตร์ 
     2) แก้ปัญหาแบบนักวิทยาศาสตร์
     3) ทักษะการอ่านบทความแบบนักวิทยาศาสตร์
      4) ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
     
                PAT3 : ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
                เนื้อหาข้อสอบ :    1) กลศาสตร์(แรง มวล และการเคลื่อนที่)  
                                         2)ไฟฟ้า แม่เหล็กไฟฟ้า คลื่น แสง เสียง
                                         3) เคมี (สาร และสมบัติของสาร)          
                                        4) พลังงาน ความร้อนและของไหล 
                                        5) คณิตศาสตร์ และสถิติประยุกต์เชิงวิศวกรรม
                วัดะไร?? :  1) การคิดวิเคราะห์                      
                                2) ความถนัดเชิงช่าง  
                                3) ความคิดเชิงตรรกะ                
                                4) สามัญสำนึกเรื่องความปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม 
                                5) การแก้ปัญหา                    
                                6) ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
     
     
               PAT4 : ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
                 เนื้อหาข้อสอบ :  1) ตรรกศาสตร์ และการคิดแก้ปัญหา
                                        2) วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์พื้นฐานทางสถาปัตยกรรม
                                        3) ความรู้ทั่วไปทางสถาปัตยกรรม และการออกแบบ
                 วัดอะไร?? :      1) การรับรู้และการสื่อสารด้วยภาพสองมิติและสามมิติ  
                                      2) การออกแบบ
                                      3) ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ                            
                                      4) การเขียนทัศนียภาพ
     
     
                PAT5 : ความถนัดทางวิชาชีพครู
                   เนื้อหาข้อสอบ : ความรู้ทั่วไปในบริบทของการเป็นครู  ((กว้างมาก!!!))
                   วัดอะไร?? :   1) ความสามารถในการเรียนรู้            
                                     2) คุณลักษณะความเป็นครู
     
     
               PAT6 : ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
                   เนื้อหาข้อสอบ :  1) ความรู้ทั่วไปทางศิลปะและวัฒนธรรม    
                                         2) ทัศนศิลป์ และการออกแบบ
                                         3) ดนตรีไทย - ดนตรีสากล                        
                                         4) นาฏศิลป์ไทย - ศิลปะการแสดง    
                   วัดอะไร??  :  1) ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ    
                                       2) การคิดวิเคราะห์ - การสังเคราะห์
                                       3) การรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก และจักษุภาษา
                                        4) ประสบการณ์ทางสุนทรียภาพ การสื่อสาร ภาษาเสียง ภาษาภาพ และ
                                            การสื่อสารทางการออกแบบ
     
     เด็กดีดอทคอม :: มาแล้ว!! เนื้อหาออกสอบ GAT/PAT ตุลาคม (เยอะเว่อร์!)
     
                PAT7.1 : ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส
                     เนื้อหาข้อสอบ : 1) คำศัพท์พื้นฐาน                      
                                           2) ไวยากรณ์และโครงสร้าง
                                           3) สำนวนในสถานการณ์ต่างๆ      
                                           4) วัฒนธรรมฝรั่งเศสและฝรั่งเศสปัจจุบัน  
                                           5) การออกเสียง
                    วัดอะไร?? :  1) ความสามารถในการอ่านจับใจความ ตีความ ขยายความและสรุปความ  
                                      2) ความสามารถในการสื่อสาร
                                      3) ทักษะการเขียน
     
                 PAT7.2 : ความถนัดทางภาษาเยอรมัน
                     เนื้อหาข้อสอบ : 1) คำศัพท์พื้นฐานระดับมัธยมปลาย        
                                            2) ไวยากรณ์
                                            3) วัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี
                     วัดอะไร?? :   1) ความสามารถในการใช้ภาษาเยอรมันและสำนวนในสถานการณ์ต่างๆ
                                               ได้ถูกต้องเหมาะสม
                                        2) ความสามารถในการอ่านจับใจความ ตีความ ขยายความและสรุปความ
     
                 PAT7.3 : ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
                       เนื้อหาข้อสอบ : 1) คำศัพท์ขั้นพื้นฐาน             2) คันจิขั้นพื้นฐาน  
                                               3) ไวยากรณ์ขั้นพื้นฐาน          
                                              4) สำนวนขั้นพื้นฐานทั่วไปในชีวิตประจำวัน  
                                              5) ญี่ปุ่นศึกษา
                      วัดอะไร?? : ความสามารถในการสื่อสาร การเขียนและการอ่าน
     
                   PAT7.4 : ความถนัดทางภาษาจีน
                        เนื้อหาข้อสอบ : 1) คำศัพท์            2) ไวยากรณ์และโครงสร้าง 
                                               3) สำนวน
                       วัดอะไร?? : ความสามารถในการสื่อสาร การเขียนและการอ่าน
     
                    PAT7.5 : ความถนัดทางภาษาอาหรับ
                         เนื้อหาข้อสอบ : 1) ไวยากรณ์          
                                               2) วัฒนธรรมการใช้ภาษาอาหรับ - ไทย 
                                               3) คำศัพท์        
                                               4) ความเข้าใจภาษา
                         วัดอะไร?? :   1) ความสามารถในการสื่อสารตามสถานการณ์  
                                            2) ความสามารถในการแยกแยะ
                                            3) ความสามารถในการวิเคราะห์ สังเคราะห์และตีความ
     
                   PAT7.6 : ความถนัดทางภาษาบาลี
                          เนื้อหาข้อสอบ : 1) คำศัพท์พื้นฐาน  
                                                 2) ไวยากรณ์และโครงสร้าง 
                                                 3) ความเข้าใจภาษา
                         วัดอะไร?? : ความสามารถในการอ่านเขียน แปลความ วิเคราะห์ สังเคราะห์และตีความ
     
     
        
                           พี่มิ้นท์ลองเทียบกับแนวข้อสอบปีที่แล้ว ต้องบอกว่าเหมือนกัน 99.9999% เพราะโดยรวมก็ยังวัดจุดสำคัญของข้อสอบนั้นๆ เช่น PAT7 เป็นข้อสอบภาษาก็จะเน้นไปที่การอ่าน การรู้จักคำศัพท์และการนำมาใช้ในบริบทต่างๆ ส่วนข้อสอบ PATคณิต PATวิทย์ ก็มาเชิงวิชาการแบบเต็มเหนี่ยว
                           ดังนั้นในเมื่อแนวข้อสอบยังเป๊ะจากปีที่แล้วขนาดนี้ น้องๆ ก็ควรหาข้อสอบเก่ามาฝึกทำกันให้เยอะๆ นะ แล้วก็เตรียมตัวสมัครพร้อมกันในวันที่ 2 ก.ค. เป็นต้นไปจ้า

    วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

    7 ปัญหาใหญ่ ที่เด็ก ม.6 อยากร้องไห้วันละ 10 รอบ



    หัวข้อกระทู้ 7 ปัญหาใหญ่ ที่เด็ก ม.6 อยากร้องไห้วันละ 10 รอบ 



    ครูโรงเรียนไม่ใส่ใจ.6 เผชิญตามยถากรรม มีข่าวก็ไม่เคยบอก มีกีฬาสีไม่มีเงินทุนให้ บางแห่งซ้ำร้ายไปอีกโรงเรียนไปเอาใจแต่เด็ก ม.ต้น น้องๆ บางโรงเรียนโอคครวญมาว่า ครูไม่ใส่ใจ ทั้งเรื่องแอดมิชชั่น หรือกิจกรรมของโรงเรียนที่ปล่อยให้เด็ก ม

                ชีวิตนี้มีแต่สอบGAT PAT เด็ก ม.6 ต้องฝืนทนท่องดังๆ ให้ขึ้นใจเลยว่าต้อง “พร้อมลุยทุกสนาม” บางสนามมีความรู้อย่างเดียวสอบไม่ได้ด้วย ต้องมีเงินค่าสมัคร ค่าธรรมเนียมต่างๆ นาๆ นี่กว่าจะจบ ม.6 หัวสมองแตกแถมบ้านหมดตัวแน่ๆ ฟังแล้วสงสารตัวเอง และพ่อแม่จัง กลางภาค ปลายภาค สอบตรง โควต้า


    การบ้าน บานตลาดไท หากเอาการบ้านทุกวิชาของ ม.6 มาวางรวมกันต้องใหญ่เกินตลาดไทแน่ๆ ลำพังเรียนก็เลิกจะ 4 โมงเย็นแล้ว ต้องมานั่งจมกับภูเขาการบ้านคำนวณเลข ศัพท์อังกฤษ และสูตรเคมี จนบางวันจะแบ่งเวลาไปอ่านหนังสือเตรียมแอดฯ ก็แทบจะไม่มี มิน่าหละเด็ก ม.6 ส่วนใหญ่จึงสมัครใจใช่เวลาช่วงเช้าในโรงเรียนไปทำการบ้าน (โดยการลอกเพื่อน) พี่ลาเต้ นี่แหละขาประจำเลย อิอิ
                -
     เพื่อนทยอยติดไปแล้ว.6 เพราะรับตรง โควต้าที่สอบไปเริ่มทยอยประกาศผล เพื่อนร่วมชั้นที่นั่งเรียนข้างๆ ก็จะเริ่มคุยแล้ว “ติดแล้วนะ” “ไปสัมภาษณ์ตื่นเต้นมาก” ด้านคุณครูก็ถามซ้ำอีก “ไหนๆ ห้องนี้ ใครติดที่ไหนแล้วบ้าง” ก็ไม่ต้องไปแคร์ครับ ตอบไปเลยดังๆ ว่า “หนูรอแอดมิชชั่นกลางค่ะ อยากมีชีวิตที่ตื่นเต้น” แม้ในใจจะอยากจะแทรกแผ่นดินหนีก็ตามเถอะ 555ประมาณเดือนธันวาคมเป็นเดือนแห่งการอับอายของเด็ก ม
               
     หน้าสิวลัยไปด้วยหน้าสิว อดเป็นดาวมหา’ลัย แย่เลย อิอิ รูขุมขนมีเท่าไหร่ สิวก็จะขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ช่วงฤดูกาลของการสอบตรง สอบสัมภาษณ์ และสอบเก็บคะแนน ช่วงเดือนนี้หากใครหน้าไม่สิว ก็จะได้เป็นแพนด้าหลินปิงแทนแน่นอน ดังนั้นเครียดได้ แต่ต้องดูแลตัวเองด้วยเด้อ เข้ามหา


    - กิจกรรมยำกันเละ กีฬาสี จัดบอร์ด เดินรณรงค์มีมาให้ร่วมทุกเดือน ยิ่งบางกิจกรรมไม่ใช่แค่วันเดียวจบ ต้องอดหลับอดนอนเตรียมงานกันร่วมเดือน ดังนั้นแบ่งเวลาให้ดี ที่สำคัญหากทำกิจกรรมแล้วมีทีมงานที่ดี เราจะไม่เสียอะไรจากกิจกรรมเลย ม.6 ฟังไว้ถึงกิจกรรมจะยำขนาดไหน ต้องเอาตัวรอดให้ได้ สู้ๆ

             

      ก่อนนอนขอออน เม้น FB กลับบ้านไม่มีอะไรทำ ขอออน msn หน่อยก็ดี ก่อนนอนกลัวหลับไม่สนิทขอเปิด FB ไปเม้นก็ยังดี ทั้งสองอย่างนี้ทำได้ครับ แต่ฝากน้องๆ ม.6 ต้องดูถึงความพอดีด้วยเด้อ เล่นบ้าง เม้นบ้างเพื่อคลายเครียด แต่อย่าถึงขั้นติด หรือใครติดก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ครับ

    วันพุธที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2556

    อักษรเฮียโรกลิฟิกส์

    ช่วงนี้ติดนิยาย 555+ กำลังคลั่งเทพเจ้า ตอนนี้อ่านเกี่ยวกับเทพเจ้าอียิปต์ เลยขอศึกษาที่มาหน่อย


    อักษรเฮียโรกลีฟิค

       
    ไฮโรกลิฟ (อังกฤษ: Hieroglyph) เป็นอักษรภาพอย่างหนึ่งของอียิปต์โบราณ เพิ่งมีการอ่านและแปลความหมายได้อย่างชัดเจนเป็นระบบเมื่อมีการค้นพบหินโรเซตตาในปีพ.ศ.2342 ที่จารึกโดยตัวอักษร 3 แบบ คือ กรีกโบราณดีโมติก และไฮโรกลิฟ การเปรียบเทียบชื่อราชวงศ์ต่าง ๆ โดยใช้ตัวอักษร 3 แบบ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาโบราณสามารถอ่านอักษรไฮโรกลิฟ ได้ใน 25 ปีต่อมา 

    จุดกำเนิด 

    ชาวอียิปต์เชื่อว่าอักษรนี้ประดิษฐ์โดยเทพเจ้าโทห์ และเรียกชื่ออักษรว่า mdwt ntr (คำพูดของพระเจ้า) คำว่าไฮโรกลิฟฟิก มาจากภาษากรีก hieros (ศักดิ์สิทธิ์) + glypho (จารึก) คำนี้ใช้เป็นครั้งแรก โดยคลีเมนต์แห่งอเล็กซานเดรีย การเขียนในอียิปต์ที่เก่าที่สุด เริ่มเมื่อราว 2,867 ปีก่อนพุทธศักราช ส่วนอักษร ไฮโรกลิฟฟิกที่ใหม่ที่สุด เป็นประกาศที่กำแพงวิหารในฟิแล (philae) อายุราว พ.ศ. 939 อักษรนี้ใช้กับจารึกอย่างเป็นทางการ ตามกำแพงวิหารและหลุมฝังศพ บางแห่งมีการระบายสีด้วย การเขียนทั่วไป ในชีวิตประจำวันใช้อักษรเฮียราติกหลังจากจักรพรรดิทีออสซิอุสที่1สั่งปิดวิหารของพวกเพเกิน ทั่วจักรวรรดิโรมันในช่วงพ.ศ. 1000 ความรู้เกี่ยวกับอักษรนี้ได้สูญหายไป จนกระทั่งชอง-ฟรองซัว ชองโปเลียงชาวฝรั่งเศสถอดความอักษรนี้ได้ 



    ลักษณะ 
    อักษรไฮโรกลิฟฟิกอาจจะเก่ากว่าอักษรรูปลิ่มของชาวซูเมอร์ทิศทางการเขียนเป็นได้หลายแบบ ทั้งแนวนอน ซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย แนวตั้งจากบนลงล่าง ซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย การบอกทิศทาง สังเกตจากการหันหน้าของรูปคนหรือสัตว์ ซึ่งจะหันหน้าเข้าหาจุดเริ่มต้นของเส้น อียิปต์ยุคต้นและยุคกลาง (ราว 1,457-1,057 ปีก่อนพุทธศักราช) ใช้สัญลักษณ์ 700 ตัว ในยุคกรีก-โรมัน ใช้สัญญลักษณ์มากกว่า 5,600 ตัว สัญลักษณ์แต่ละตัวบอกทั้งการออกเสียงและความหมาย เช่นสัญลักษณ์ของจระเข้ เป็นรูปจระเข้รวมกับสัญลักษณ์แทนเสียง “msh” เช่นเดียวกับคำว่าแมว “miw” จะใช้รูปแมว รวมกับสัญลักษณ์แทนอักษร m i และ w 
    อักษรที่มีลักษณะเช่นเดียวกับอักษรไฮโรกลิฟฟิกของอียิปต์จะเรียกอักษรไฮโรกลิฟฟิกด้วย เช่นอักษรไฮโรกลิฟฟิกของชาวลูเวียและชาวฮิตไตน์ 

    ความเชื่อ 
    ชาวอียิปต์มีความชำนาญทางศิลปะหัตถรรม งานช่าง และการทำหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับชีวิตหลังความตายและอักษรภาพหรือภาษาตามความเชื่อที่มีอำนาจและอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตและพิธีกรรม 
    ชาวอียิปต์เชื่อว่าตัวอักษรของพวกเขาประดิษฐ์ขึ้นโดยเทพเจ้าธอธ (Thoth) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งภูมิปัญญา และจอความดีชั่วของผู้ตาย และเรียกชื่อตัวอักษรของพวกเขาว่าmdw nTr หรือคำพูดของเทพเจ้า


    ดังนั้นตัวอักษรในยุคแรกๆ จึงมักจะพบถูกจารึกคู่กับการแกะสลักหรือวาดภาพเทพเจ้าไม่ว่าจะบนกำแพงวิหารหลุมฝังศพหรือโลงที่ทำจากหินเพื่อคุ้มครองผู้ตาย นอกจากนี้ยังจารึกที่เป็นคำสาปแช่งผู้ที่ล่วงละเมิดสุสาน
               ตัวอักษรของชาวอียิปต์โบราณหรือที่เรารู้จักว่าอักษรภาพ (Hieroglyphs) หรือ ไฮโรกริฟฟิค,ฮีโรกราฟิค  มาจากภาษากรีก hieros (ศักดิ์สิทธิ์) + glypho (จารึก) ซึ่งไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนว่าการเขียนในอียิปต์โบราณที่เก่าที่สุดเกิด ขึ้นเมื่อ ไร ส่วนอักษรไฮโรกลิฟฟิคที่จารึกเป็นตัวสุดท้ายคือประกาศที่กำแพงวิหารในฟิเล (Philae) ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 394 การเขียนทั่วไปในชีวิตประจำวันใช้อักษรเฮียราติก หลังจากจักรพรรดิทีโอโดซิอุสที่ 1 (Theodosius I) สั่งปิดวิหารของพวกนอกรีตทั่วจักรวรรดิโรมันในช่วง ค.ศ. 457ความรู้เกี่ยวกับอักษรภาพนี้ก็ได้
    สูญหายไป
                    ไฮโรกลิฟฟิคเพิ่งมีการอ่านและแปลความหมายได้อย่างชัดเจนเป็นระบบเมื่อมีการค้นพบหินโรเซตตาในปี ค.ศ.1799 ตัวอักษรที่จารึกบนแผ่นหินมีตัวอักษร 3 แบบ คือ กรีกโบราณ ดีโมติก และไฮโรกลิฟ จึงทำให้การเปรียบเทียบชื่อราชวงศ์ต่าง ๆ โดยใช้ตัวอักษร 3 แบบนี้ และทำให้ผู้เชี่ยวชาญภาษาโบราณ Jean-Francosis Champollion ชาวฝรั่งเศสถอดความอักษรนี้ใน 25 ปีต่อมา
    อักษรไฮโรกลิฟฟิคมีทิศทางการเขียนเป็นได้หลายแบบ ทั้งแนวนอนซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย ,แนว ตั้งจากบนลงล่างทั้งซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย เราจะรู้ทิศทางการอ่านให้สังเกตจากการหันหน้าของรูปคนหรือสัตว์ ถ้ารูปหันหน้าไปทางขวาให้อ่านจากขวาไปซ้าย ถ้ารูปหันหน้าไปทางซ้ายให้อ่านจากซ้ายไปขวา หรือสรุปว่ารูปจะหันหน้าเข้าสู่จุดเริ่มต้นในการอ่านเสมอ
                    อักษรไฮโรกลิฟอียิปต์ยุคต้นและยุคกลางใช้สัญลักษณ์ 700 ตัว ในยุคกรีก-โรมัน ใช้สัญลักษณ์มากกว่า 5,600 ตัว สัญลักษณ์แต่ละตัวบอกทั้งการออกเสียงและความหมาย เช่น คำว่า “จระเข้” จะเป็นรูปจระเข้รวมกับสัญลักษณ์แทนเสียง “msH” (อ่านว่า meseh) หรือคำว่า “แมว” จะใช้รูปแมวรวมกับสัญลักษณ์แทนอักษร “miw” (อ่านว่า meeoo)
                    อักษรที่มีลักษณะเช่นเดียวกับอักษรไฮโรกลิฟของอียิปต์จะเรียกอักษรไฮโรกลิฟด้วยเช่น อักษรไฮโรกลิฟของชาวมายา,ชาวฮิทไทน์,ชาวลูเวียน ฯลฯ
                    คน อียิปต์ในปัจจุบันไม่ได้พูดและใช้ภาษาอียิปต์โบราณอีกแล้วแต่พูดภาษาอาหรับ ภาษาลูกของชาวอียิปต์โบราณที่เหลือคือ ภาษาคอปติกซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายคอปติกที่เรียก คอปติกเชิร์ช


    วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

    หลุมดำใหญ่กลาทะเล ลึกกว่า 200 เมตร

    หลุมดำใหญ่กลาทะเล ลึกกว่า 200 เมตร



    หลุมดำ ซึ่งที่ถูก ควรจะเรียกว่า หลุมน้ำเงิน (blue hole) เป็นถ้ำ หรือหลุมที่มีอยู่ในทะเล หลุมน้ำเงินดังกล่าวนี้ มีอยู่มากมายทั่วโลก โดยเฉพาะในทะเลแถบ บาฮามา และ ชายฝั่งทะเลของประเทศแบลิซ ทางตอนใต้ของเม็กซิโก

    หลุมน้ำเงินนอกชายฝั่งเม็กซิโก ชื่อ ทามาวลิปาส (Tamaulipas) มีความลึกที่สุด ถึง 335 เมตร
    ถัดมาคือหลุมน้ำเงินดีน(Dean's Blue Hole) อยู่นอกชายฝั่งบาฮามา ลึกประมาณ 202 เมตร

    สำหรับหลุมน้ำเงินทีมีการกล่าวถึงมากที่สุดคือ หลุมน้ำเงินนอกชายฝั่งประเทศแบลิซ ที่มีรูปทรงเป็นวงกลมเกือบสมบูรณ์
    หลุมน้ำเงินนี้ เชื่อกันว่า มีขนาดใหญ่ที่สุด คือปากหลุมมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 เมตร ขณะที่มีความลึก 125 เมตร


      
                                                 

    วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

    ปรากฏการณ์แปลก ทะเลสาบสีชมพู (Lake Hillier)



    ปรากฏการณ์แปลก ทะเลสาบสีชมพู (Lake Hillier)

    •                      ปรากฏการณ์แปลก ทะเลสาบสีชมพู

    •  เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ เปิดเผยภาพปรากฎการณ์สุดน่าทึ่งของทะเลสาบในประเทศเซเนกัล ที่เปลี่ยนสีเป็นสีชมพูอันเนื่องมาจากแบคทีเรียปริมาณมากที่อาศัยอยู่ในน้ำเค็มจัดทำปฎิกิริยากับแสงอาทิตย์

                โดยทะเลสาบแห่งนี้ชื่อว่า ทะเลสาบเร็ตบา อยู่ในประเทศเซเนกัล ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา เป็นทะเลสาบที่มีปริมาณเกลือสูงมาก บางพื้นที่ของทะเลสาบมีเกลือถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และในน้ำทะเลแห่งนี้ ยังมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ผลิตสารสีแดงในการดูดซับแสงอาทิตย์ กระจายอยู่เต็มไปหมด จึงทำให้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน ๆ ในตอนกลางวัน และยิ่งเมื่อทะเลสาบต้องแสงแดด มันก็ยิ่งกลายเป็นสีชมพูนมเย็นได้อย่างน่าทึ่ง

                 ทางด้านนายไมเคิล แดนสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านแบคทีเรียเอ็กซตรีมโมไพล์ จากมหาวิทยาลัยบาธ ได้เปิดเผยว่า "สีนมสตรอเบอร์รี่ในทะเลสาบแห่งนี้ เกิดจากแบคทีเรีย Dunaliella ซึ่งชอบอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เค็มจัด พวกมันจะผลิตสารสีแดงออกมา เพื่อช่วยในการดูดซับพลังงานจากแสงอาทิตย์ ที่จะนำไปใช้ในการสร้างพลังงานมากขึ้น ดังนั้น เมื่อแดดออก น้ำทะเลก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอย่างที่เห็น และทะเลสาบเร็ตบาแห่งนี้ ก็เค็มเหมือนกับทะเลสาบเดดซี มันมีเกลือในปริมาณมาก จนทำให้เราลอยอยู่ในน้ำได้"

                 นอกจากนี้ ไมเคิล แดนสัน ยังเปิดเผยอีกว่า ครั้งหนึ่ง ทะเลสาบเร็ตบาแห่งนี้ถูกเชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ เพราะมันเค็มมาก แต่ใครเลยจะรู้ว่า มันเป็นทะเลสาบที่มีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก หรือจุลชีพ อาศัยอยู่มาก และมันก็มีชีวิตชีวามากเลยทีเดียว

    •            pink lake  senegal  ทะเลสาบสีชมพู
                                                          
                                     

    วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

    อนุสัญญาไซเตส (CITES) กับการคุ้มครองสัตว์ป่าในไทย


      อนุสัญญาไซเตส (CITES) กับการคุ้มครองสัตว์ป่าในไทยอนุสัญญาไซเตส (CITES) กับการคุ้มครองสัตว์ป่าในไทย

     ความเป็นมา
              ไซเตส (Convention on International Trade in Endangered Species of. Wild Fauna and Flora, 1973-CITES) หมายถึง อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่า และพืชป่า ที่ใกล้สูญพันธุ์ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2516 โดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ จัดให้มีกระประชุมนานาชาติขึ้น ที่กรุงวอชิงต้น ดี.ซี. และร่างอนุสัญญาไซเตสขึ้น มีประเทศที่เข้าร่าวมประชุมถึง 88 ประเทศและมีประเทศที่ลง นามรับรองและเห็นด้วยกับอนุสัญญาฉบับตี้ทันทีถึง 21 ประเทศ ประเทศไทยได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมในการประชุมครั้งนั้นด้วย แต่ได้ลงนามรับรองอนุสัญญาฉบับนี้ เมื่อปี พ.ศ.2518 และให้สัตยาบันในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2526 นับเป็นสมาชิกลำดับที่ 80 เป้าหมายสำคัญของอนุสัญญาฉบับนี้คือ การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชป่าในโลก เพื่อประโยชน์ แห่งมวลมนุษยชาติ โดยเน้นทรัพยกรสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือที่มีการคุกคาม ทำให้ประมาณลดลงจน อาจจะสูญพันธุ์ไป วิธีการของการอนุรักษ์ที่ได้กล่าวไว้ในอนุสัญญาไซเตสนั้น ทำโดยสร้างเครือข่ายขึ้นทั่วโลกเพื่อควบคุม การค้าระหว่างประเทศ ทั้งสัตว์ป่าพืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่ไซเตสจะไม่ควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ ท้องถิ่น

    หน้าที่ของไซเตส
           บทบาทและหน้าที่ของอนุสัญญาไซเตสที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในโลกที่ได้ร่วมลงนามรับรองในเงื่อนไข ที่ตกลงร่วมกันนั้น มีหน้าที่ดังนี้
    1. สมาชิกมีหน้าที่รักษาและบังคับใช้อนุสัญญาไซเตส มิให้มีการค้าสัตว์ป่า พืชป่าที่ผิดระเบียบอนุสัญญาฯ และจะต้องมีมาตรการลงโทษผู้ค้า ผู้ครอบครอง ริบของกลาง และส่งของกลางกลับแหล่งกำเนิด กรณีที่ทราบ แหล่งกำเนิด
    2. ต้องมีการตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่าระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า พืชป่า และการขนส่งที่ปลอดภัยตามระเบียบในอนุสัญญาไซเตส
    3. ต้องส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถิติการค้าสัตว์ป่า พืชป่าของประเทศตนแก่สำนักเลขาอนุสัญญา ไซเตส
    4. ต้องจัดตั้งคณะทำงานฝ่ายปฎิบัติการ และคณะทำงานฝ่ายวิทยาการประจำประเทศ เพื่อควบคุม การค้าสัตว์ป่า พืชป่า
    5. มีสิทธิ์เสนอขอเปลี่ยนแปลงชนิดพันธุ์ในบัญชี Appendix 1. 2 และ 3 ให้ภาคีพิจารณา
    อนุสัญญาไซเตสคุ้มครองอะไรบ้าง
             การคุ้มครองตามอนุสัญญาฉบับนี้ ครอบคลุมทั้งสัตว์ป่าและพืชป่า โดยระบบใบอนุญาต ซึ่งหมายความ ว่า สัตว์ป่าที่อยู่ในการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส จะต้องมีใบอนุญาตต่อไปนี้
    1. นำเข้า
    2. ส่งออก
    3. นำผ่าน
    4. ส่งกลับออก
         ชนิดของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ไซเตสควบคุมจะระบุไว้ในบัญชี หมายเลข 1, 2 และ 3 ของอนุสัญญาฯ โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
    ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาด เนื่องจากใกล้ สูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษาวิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่นำเข้าเสียก่อน ประเทศ ส่งออกจึงจะออกใบอนุญาติส่งออกได้ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วย ชนิดพันธุ์ของไทย เช่น กระทิง จระเข้น้ำจืด จระเข้น้ำเค็ม ช้างเอเชีย เสื่อโคร่ง แรด หมีควาย สมเสร็จ เต่าหลายชนิด กล้วยไม้หายาก บางชนิด และทั่วไป เช่น อุรังอุตัง กอริลลา หมีแพนด้ายักษ์ ปลาวาฬยักษ์ เสือซีตาร์ เสือโคร่ง เต่าทะเล นกกระเรียน

    ชนิดพันธุ์หมายเลข 2 เป็นพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ยังไม่ถึงกับใกล้สูญพันธุ์ จึงยังอนุญาตให้ค้าได้ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายหรือลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดใกล้สูญพันธุ์ โดยประเทศที่ส่ง ออกต้องออกหนังสืออนุญาตให้ส่งออกและรับรองว่าการส่งออกแต่ละครั้งจะไม่กระทบกระเทือนต่อการดำรงชีวิต ของชนิดพันธุ์นั้น ๆในธรรมชาติ เช่น ค้างคาวแม่ไก่ทุกชนิด ลิง ค่าง นกหลายชนิด ชะมด นาก ปลาโลมา งูหลายชนิด พืชประเภทหม้อข้าวหม้อแกงลิง ฯลฯ

    ชนิดพันธุ์หมายเลข 3 เป็นชนิดพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศใดประเทศหนึ่ง แล้ว ขอความร่วมมือประเทศภาคี ช่วยดูแลในการนำเข้า คือ จะต้องมีหนังสือรับรองการส่งออกจากประเทศถิ่นกำเนิด เช่น ควาย (เนปาล) นกขุนทอง (ไทย)


    วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

    วันสตรีสากล


    วันสตรีสากล

                      วันสตรีสากล มิเพียงแค่การเฉลิมฉลองเหมือนงานประเพณีที่มักทำติดต่อกันทุกปี หากจะเป็นการตระหนักร่วมและให้คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ของผู้ใช้ แรงงานหญิง และสืบทอดเจตนารมย์ที่ต้องการให้ผู้หญิงได้รับการปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัย จากความรุนแรง และยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ผู้ใช้แรงงานต้องได้รับการดูแลในด้านสวัสดิการ สุขภาพความปลอดภัยในการทำงาน รวมทั้งผู้หญิงต้องได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติและเท่าเทียมในฐานะที่ ผู้หญิงก็เป็นสมาชิกหนึ่งในสังคม


    ประวัติความเป็นมา ของ "วันสตรีสากล" เกิดขึ้นจากกรรมกรหญิงในโรงงานทอผ้า รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้พากันลุกฮือประท้วงให้นายจ้างเพิ่มค่าจ้าง และเรียกร้องสิทธิของพวกเธอ แต่สุดท้ายกลับมีผู้หญิงถึง 119 คนต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ด้วยการที่มีคนลอบวางเพลิงเผาโรงงานที่พวกเธอนั่งชุมนุมกันอยู่ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1857 (พ.ศ. 2400)
    จากนั้นในปี ค.ศ.1907 (พ.ศ. 2450) กรรมกรหญิงในโรงงานทอผ้าที่เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาทนไม่ไหวต่อการเอารัด เอาเปรียบ กดขี่ ทารุณ ของนายจ้างที่ใช้งานพวกเธอเยี่ยงทาส เนื่องจากกรรมกรหญิงเหล่านี้ต้องทำงานหนักถึงวันละ 16-17 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยุด ไม่มีประกันการใช้แรงงานใดๆ เป็นผลให้เกิดความเจ็บป่วยล้มตายตามมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่กลับได้รับค่าแรงเพียงน้อยนิด และหากตั้งครรภ์ก็ถูกไล่ออก
    ความอัดอั้นตันใจจึงทำให้ "คลาร่า เซทคิน" นักการเมืองสตรีสายแนวคิดสังคมนิยม ชาวเยอรมันตัดสินใจปลุกระดมเหล่ากรรมกรสตรีด้วยการนัดหยุดงานในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1907 พร้อมกับเรียกร้องให้นายจ้างลดเวลาการทำงานลงเหลือวันละ 8 ชั่วโมง อีกทั้งให้ปรับปรุงสวัสดิการทุกอย่าง และให้สตรีมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งด้วย อย่างไรก็ตามแม้การเรียกร้องครั้งนี้ จะไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากมีแรงงานหญิงหลายร้อยคนถูกจับกุม แต่ก็ทำให้สตรีทั่วโลกสนับสนุนการกระทำของ "คลาร่า เซทคิน" และเป็นการจุดประกายให้สตรีทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงสิทธิของตัวเองมากขึ้น
    ต่อมาในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1908 (พ.ศ. 2451) มีแรงงานหญิงกว่า 15,000 คน ร่วมเดินขบวนทั่วเมืองนิวยอร์ก เรียกร้องให้ยุติการใช้แรงงานเด็ก โดยมีคำขวัญการรณรงค์ว่า "ขนมปังกับดอกกุหลาบ" ซึ่งหมายถึงการได้รับอาหารที่พอเพียงพร้อมๆ กับคุณภาพชีวิตที่ดีนั่นเอง
    จนกระทั่งในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1910 (พ.ศ. 2453) ความพยายามของกรรมกรสตรีกลุ่มนี้ก็ประสบผลสำเร็จ เมื่อมีตัวแทนสตรีจาก 17 ประเทศ เข้าร่วมประชุมสมัชชาสตรีสังคมนิยมครั้งที่ 2 ณ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยในที่ประชุมได้ประกาศรับรองข้อเรียกร้องของบรรดากรรมกรสตรี ในระบบสาม 8 คือ ยอมให้ลดเวลาทำงานเหลือวันละ 8 ชั่วโมง ให้เวลาศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองอีก 8 ชั่วโมง และอีก 8 ชั่วโมงเป็นเวลาพักผ่อน พร้อมกันนี้ยังได้ปรับค่าแรงของแรงงานหญิงให้เท่าเทียมกับแรงงานชาย และยังมีการคุ้มครองสวัสดิการสตรีและแรงงานเด็กอีกด้วย
    ทั้งนี้ยังได้รับรองข้อเสนอของ "คลาร่า เซทคิน" ด้วยการกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคม ของทุกปีเป็น วันสตรีสากล



                                              

    วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556

    Miriam Makeba


    Miriam Makeba เป็นใคร ทำไม ได้ขึ้น logo google วันนี้

    Miriam Makeba เป็นใคร ทำไม ได้ขึ้น logo google วันนี้ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันครบรอบ วันเกิดปีที่ 81 ของ Miriam Makeba ศิลปินชาวแอฟริกา ที่สร้างชื่อเสียง จากเพลง patapata นั่นเอง

    ในทศวรรษที่ 1960 เธอเป็นศิลปินคนแรกที่มาจากแอฟริกา เธอเป็นที่รู้จักดีสำหรับเพลง "พาต้าพาต้า" บันทึกเป็นครั้งแรกในปี 1957
    และเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาในปี 1967


    เธอมีส่วนในการเข้าไปรณรงค์ต่อต้านการแบ่งแยกในแอฟริกาใต้ เป็นผลให้รัฐบาลแอฟริกาใต้เพิกถอนสิทธิการเป็นพลเมืองไปโดยสิ้นเชิง  และภายหลังเมื่อสิ้นสุดการแบ่งแยกสีผิว เธอจึงได้กลับบ้านเกิด อย่างถูกกฏหมาย

    เธอเสียชีวิตวันที่ 9 พฤศจิกายน 2008 หลังจากการแสดงคอนเสิร์ตในอิตาลี ที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนนักเขียน Roberto Saviano ผู้ยืนหยัดต่อสู้กับองค์กร camorra หรือแก็งมาเฟียใหญ่ ในประเทศอิตาลี


                                                  Miriam Makeba 04.jpg




    วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

    Passé récent


    Passé récent ใช้แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเพิ่งจบสิ้นไปในอดีต

    รูปแบบ passé récent ง่ายมาก

    รูปแบบ
    Passé récent


                                   



    ตัวอย่าง
    Je       viens de venir de  Bangkok.ฉันเพิ่งมาจากกรุงเทพ
    Tu      viens de manger.เธอพึ่งกิน
    Il        vient d’acheter une voiture.เขาเพิ่งซื้อรถ
    Vous   venez de me dire la vérité.คุณเพิ่งบอกความจริงกับผม
    Nous   venons de terminer les études.พวกเราเพิ่งเรียนจบ
    Ils      viennent de répondre aux questions.พวกเขาเพิ่งตอบคำถาม


    เทรนด์เต้นหมู่ ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake คืออะไร ?



    เทรนด์เต้นหมู่ ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake คืออะไร ?




    Harlem Shake เทรนด์เต้นหมู่แบบใหม่

      เทรนด์การเต้นหมู่“ ในปัจจุบันนั้นได้เกิดขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ ซึ่งแต่ละการเต้นนั้นจะมีรูปแบบ , ลักษณะเด่นที่แตกต่างกันออกไปตาม ไอเดีย เพลง ท่าเต้น หรือสถานที่เต้น มักจะทำเพื่อจุดประสงค์การบันเทิง การล้อเลียน หรือการแสดงออกทางศิลปะ ..  ถ้า ไอเดียดี ท่าเต้นแปลก ให้ความสนุกสนาน เพลินเพลินมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นกระแสฮิตที่ต้องทำตามทั่วโลกแน่นอน
    ตามที่เพื่อนๆเคยรู้จัก Flash Mob ( แฟลชม็อบ ) เป็นการเต้นหมู่ในสถานที่หนึ่งอย่างฉับพลัน เพื่อแสดงสิ่งแปลกตาและดูเหมือนไม่มีจุดมุ่งหมายในช่วงระยะเวลาอันสั้น จากนั้นจึงสลายตัว แยกย้ายกันไป ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เทรนด์เต้นหมู่ นี้ก็ยังสามารถทำได้อยู่เรื่อยๆ
    โดย เทรนด์การเต้นหมู่ที่ผ่านมาก็คงจะเป็น หนังดังอย่าง Step Up 4 และสดๆร้อนๆเลยก็คงจะหนีไม่พ้น การเต้น กังนัมสไตล์ (Gangnam Style) ที่สร้างปรากฏการณ์ในหลายๆประเทศ ออกมารวมตัวเต้นกันนั่นเอง ^^ แต่ที่ร้อนแรงไปยิ่งกว่า ก็คือ กระแส Harlem Shake ฮาร์เล็ม เชค นี่แหละ!!!

     Harlem Shake คืออะไร ?


    • เทรนด์การเต้นหมู่ Harlem Shake (ฮาร์เล็ม เชค) เป็นการเต้นประกอบเพลงรูปแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมมาก
    • ฮาร์เล็ม เชค ( Harlem Shake ) รูปแบบการเต้น ฮาร์เล็ม เชค นี้ เป็นการหยิบเอางานเพลงชื่อเดียวกัน Harlem Shake ของบาเออร์ ศิลปินฮิปฮอป มาใช้ประมาณ 30 วินาที
    • โดยในช่วงเริ่มต้นของการเต้น Harlem Shake นั้นจะเป็นการเต้นเพียงคนเดียว ท่ามกลางในหมู่ของเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างที่ทำเป็นไม่สนใจ แต่พอถึงช่วงที่จังหว่ะเพลงเปลี่ยน ผู้คนรอบข้างเหล่านั้นก็จะลุกออกมาเต้นในท่วงทีที่บ้าคลังหรือจะเรียกว่าหลุดโลกเลยก็ว่าได้  ไม่เน้นสวยงามแต่เน้นความฮาจ้า!!

    ที่มาฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)

    •  การเต้นฮาร์เล็ม เชค มีที่มาจาก การแสดงของชนกลุ่มหนึ่งในแถบทวีปแฟริกาเหนือ คือ ชนเผ่าเอสกิสตา (Eskista
    • โดยท่าเต้นดังกล่าวมีเอกลักษณ์คือการโยกไหล่ไปมา
    • จากนั้นนักเต้นวณิพกจากนิวยอร์ก สหรัฐฯ คนหนึ่งก็ได้นำท่าเต้นดังกล่าวไปประยุกต์เข้ากับลักษณะการเคลื่อนไหวของมัมมี่ ที่จะทำได้เพียงแค่การกระตุกไหล่ไปมา ทำให้ท่าเต้นดังกล่าวได้กลายมาเป็นที่นิยม จนได้รับการเผยแพร่ไปจนถึงย่านฮาร์เล็ม ของนิวยอร์ก ช่วงปี ค.ศ. 1981 จนกลายมาเป็นที่มาของชื่อ ฮาร์เล็ม เชค ในที่สุด
    • Harlem Shake เทรนด์เต้นหมู่แบบใหม่ Harlem Shake คืออะไร teen.mthai.com


    • Harlem Shake เทรนด์เต้นหมู่แบบใหม่ Harlem Shake คืออะไร teen.mthai.com4