เทพนรสิงห์ .. รูปลักษณ์ร่างกายเป็นสิงห์ หน้าเป็นคน มีกรงเล็บเป็นสิงห์ เป็นอวตารองค์ที่ 4 ของพระนารายณ์ เพื่อมาปราบยักษ์ตนหนึ่งชื่อ “หิรัณยกษิปุ – อ่านว่า หิ-รัน-ยะ-กะ-สิ-ปุ”
ยักษ์ตนนี้มีความแค้นพระนารายณ์เนื่องจากพี่ชายนาม “หิรัณยากษะ – อ่านว่า หิ-รัน-ยา-กะ-ษะ” ได้ไปขอพรขอฤทธิ์จากพระศิวะ พอบำเพ็ญเพียรจนแก่กล้า วันดีคืนดียักษ์ตนนี้ก็ม้วนแผ่นดินเล่น แล้วลงไปนอนตีพุงที่ใต้บาดาล ทำเอาเดือดร้อนกันไปทั่วทั้งโลก เพราะเกิดมืดมิดไปหมด … พระนารายณ์จึงอวตารมาปราบ ใช้เวลาพันปีจึงสำเร็จ
ยักษ์ “หิรัณยกษิปุ” ผู้เป็นน้องเก็บความแค้นเอาไว้ในใจ บำเพ็ญพรตแก่กล้าขึ้น จึงไปขอพรพระพรหม หลายข้อคือ
หนึ่ง : ขอให้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา หรือสัตว์เดรัจฉาน ไม่สามารถฆ่ายักษ์ตนนี้ได้
สอง : อาวุธใดๆในโลกก็ไม่สามารถฆ่าได้
สาม : ขอให้ไม่มีวันตาย ทั้งกลางวันและกลางคืน
สี่ : ไม่ตายทั้งในบ้าน และนอกบ้าน
พระพรหมประทานพรตามที่ยักษ์ตนนี้ขอ … ตั้งแต่นั้นมา ยักษ์ “หิรัณยกษิปุ” ก็อาละวาดเกเรไปทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ เหล่าเทวดาเดือดร้อนจึงไปร้องเรียนพระอินทร์ซึ่งเป็นประมุขของเทวดา ให้อัญเชิญพระนารายณ์มาปราบ ด้วยเหตุนี้พระนารายณ์จึงถูกปลุกขึ้นมาจากเกษียรสมุทร อวตารมาเป็นนรสิงห์ผู้ปราบยักษ์
นรสิงห์ ซึ่งไม่ใช่เทวดาหรือมนุษย์ .. จับตัวยักษ์ “หิรัณยกษิปุ” มาที่ใต้ชายคา ซึ่งไม่ใช่ทั้งในบ้านหรือนอกบ้าน… ในเวลาโพล้เพล้ ที่ไม่ใช่กลางวันหรือกลางคืน … แล้วฉีกร่างยักษ์ขาดเป็นสองท่อนด้วยกรงเล็บ ที่ไม่ใช่อาวุธ
จัตุรัสกาฏมาณฑุ ดูร์บาร์แห่งนี้ นับเป็นวิถีแห่งความรุ่งโรจน์จากอดีต ที่ยังคงรูปร่างที่ตระการตามาจนถึงปัจจุบัน…
ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทเก่าแก่ ทั้งใหญ่และเล็กรวมกันกว่า 50 แห่ง เรียงรายกระจายกันอยู่เต็มพื้นที่ ซึ่งแสดงภาพของความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ที่กษัตริย์เนปาลประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชย์
สถานที่ที่น่าสนใจมีอยู่หลายแห่ง เช่น วัดเตะเลชุ สร้างโดยกษัตริย์มเหนทรา มัลละ (King Mahendra Malla)ในปี พ.ศ. 2092 วัดกาฬ ไภราพ ซึ่งเป็นเทพแห่งการทำลายล้าง God of Destruction) กลองยักษ์ และวัดจากายนาถ (Jagannath Temple)
จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2522
พระราชวังของกษัตริย์เนปาล … เป็นพระราชวังที่สร้างและทำขึ้นจากไม้แกะสลักทั้งหลัง นับเป็นเป็นสิ่งก่อสร้างชิ้นเอกกลางเมืองที่ผสานแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมคลาสสิกสไตล์ยุโรป กับศิลปะพื้นเมืองไว้ด้วยกันอย่างลงตัว .. แม้จะดูแปลกตาไปบ้างสำหรับนครโบราณแห่งนี้
เป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าสนใจและน่าไปเที่ยว
ตอบลบ